ใครบ้างที่อาจเป็นมะเร็งปากมดลูก
คนยิ่งจนยิ่งมีโอกาสเป็นมากขึ้น พูดง่ายๆ ก็คือเป็นมะเร็งของคนจน เพราะคนจนส่วนมากจะมีลูกมากแต่งงานเมื่ออายุยังน้อย หรืออาจมีสามีหลายคน
โรคนี้เกี่ยวกับความสำส่อนทางเพศมากที่สุด หญิงที่มีเพศสัมพันธ์บ่อยหรือเปลี่ยนคู่บ่อย จะมีโอกาสเป็นโรคนี้มาก บางคนจึงว่า มะเร็งปากมดลูกเป็นกามโรคชนิดหนึ่งด้วยคือ ถ้าไม่มีการร่วมเพศ ก็ไม่เป็นมะเร็งปากมดลูก
ช่วงอายุเท่าไรเป็นมะเร็งชนิดนี้ได้มากที่สุด
พบบ่อยที่สุดก็ในช่วงอายุ 40-60 ปี คือในระยะใกล้วัยหมดประจำเดือนและระยะหลังวัยหมดประจำเดือนใหม่ๆ อายุ ที่น้อยที่สุดที่พบ ถ้าเป็นชนิดที่ลุกลามมีอาการแล้วคืออายุ 20 ปี ถ้าชนิดระยะแรกเริ่มที่ยังไม่มีอาการก็อายุ 18-19 ปี แต่ก็พบได้ไม่บ่อยนัก
สาเหตุเกิดจากอะไร ?
ยังไม่พบสาเหตุที่แน่ชัด แต่สันนิษฐานว่าเกิดจากเรื่องเพศสัมพันธ์ คือมีความสัมพันธ์ทางเพศจักเกินไป หรือมีลูกมาก
จะรู้ได้ไงว่าเป็นมะเร็งปากมดลูก
ถ้าเป็นระยะแรกเริ่มที่ยังไม่ลุกลามออกไป ที่หมอเรียกว่ามะเร็งระยะแรกเริ่ม (Carcinoma in situ)นั้น คนไข้จะไม่มีอาการอะไรเลยทั้งสิ้น ตรวจพบโดยวิธีตรวจช่องคลอดหามะเร็งระยะแรกเริ่มที่เรียกกันว่า การตรวจแป๊ปสเมียร์
ส่วน อาการแรกๆ ที่ชาวบ้านสังเกตได้เองซึ่งเป็นอาการของระยะลุกลามก็คือ อาการตกขาวหรือการมีเลือดออกทางช่องคลอดหลังร่วมเพศใหม่ๆ หรืมีเลือดออกกกะปริดกะปรอย
ตกขาวในโรคมะเร็งแยกจากตกขาวปกติอย่างไร ?
ตกขาวปกตินั้น ไม่มีอาการออกเล็กน้อย ไม่ถึงกับต้องใช้ผ้าอนามัยและถึงกับเปรอะเปื้อนมักไม่คัน ไม่มีกลิ่นและมีสีขาวใสๆ แต่ ถ้าตกขาวเป็นสีช้ำเลือดช้ำหนอง มีกลิ่นเหม็นหรือมีอาการแสบขัดปวดก็ถือว่าเป็นตกขาวผิดปกติ อาจเป็นมะเร็งหรือเป็นจากสาเหตุอื่นก็ได้ ควรไปหาหมอ
มะเร็งปากมดลูกเริ่มแรกมีเลือดออกหลังร่วมเพศ หรือมีเลือดออกกะปริดกะปรอย ต่อไปเมื่อเป็นมากขึ้นก็มีอาการอักเสบแทรกซ้อน ทำให้มีตกขาวออกมาเรื่ * อาการอื่นๆ ของโรคนี้
ได้แก่ ตกเลือด บางคนไปหาหมอเมื่อมีอาการตกเลือดมากจนเป็นลมช็อคหรือถ้าเป็นในระยะท้ายๆก็ อาจมีอาการปวดที่ท้องน้ำหนักลด ไม่มีแรง บวม หรือกลั้นปัสสาวะไม่อยู่ซึ่งเกือบเป็นระยะสุดท้ายแล้ว จึงอยากย้ำว่า สิ่งใดที่ผิดไปจากที่เราเคยมีอยู่เป็นประจำแล้วละก้อ อย่าได้นิ่งนอนใจ เพราะโรคนี้เป็นระยะแรกๆ ก่อนมีอาการและรีบรักษาก็มีโอกาสหายได้
ตรวจรู้ก่อนมีอาการได้อย่างไร
มีอยู่ทางเดียวคือ หาหมอให้ช่วยตรวจช่องคลอดเพื่อค้นหามะเร็งในระยะแรกเริ่ม ที่เรียกว่า การตรวจแป๊ปสเมียร์
ได้มีการศึกษากันแล้ว พบว่ามะเร็งปากมดลูกในระยะเริ่มแรก (คือก่อนมีอาการ) กว่าจะกลายเป็นระยะลุกลามจนมีอาการ แล้วนั้นใช้เวลาถึง 5-15 ปี ไม่ได้ลามปุบปับเหมือนไฟลามทุ่ง คิดๆ ดูแล้วผู้หญิงเรามีเวลา 5-15 ปีสำหรับตรวจโรคนี้และรักษาให้หายได้ 100 เปอร์เซ็นต์ แต่เป็นที่น่าเสียดายที่ผู้ป่วยส่วนมากพลาดโอกาสที่มาตรวจและรักษาแต่เนิ่นๆ
ผู้ป่วยส่วนมากจะมาหาหมอเมื่อมีอาการตกขาวและตกเลือดจนนอง ซึ่งเป็นระยะที่ลุกลามแล้ว
ควรตรวจทุกปีไหม
สมัยก่อนแนะนำให้ตรวจทุกปี แต่เดี๋ยวนี้แม้แต่ในต่างประเทศก็เห็นแล้วว่าอาจไม่ตรวจทุกปี นอกจากพวกที่มีอัตราเสี่ยงสูง พวกที่ไม่เสี่ยงมากหรือพวกที่เสี่ยงมากที่คิดว่าดีพอแล้วคือ ตรวจ 2 ปีติดกัน (ปีละครั้ง) แล้วเป็นปกติดีก็เว้นไปเป็น 3-4 ปีตรวจครั้งก็ได้
โรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดไหม
หายขาดได้ ชาวบ้านหรือแม้แต่หมอเราส่วนใหญ่ คิดว่าการเป็นมะเร็งก็คือความตาย
แต่ความจริงทุกระยะมีโอกาสหายขาดได้ และถึงแม้ไม่หายขาดการรักษาก็ช่วยลดความทุกข์ทรมาน ย่อมมีประโยชน์ต่อผู้ป่วยอย่างแน่นอน
ปัจจุบัน ผลิตภัณฑ์ คาวตอง พลัส เป็นผลิตภัณฑ์ที่สามารถป้องกันและแก้ปัญหามะเร็งปากมดลูก เป็นที่นิยมอย่างสูง
ดูข้อมูลที่ http://kowtongplusbml.blogspot.com
อย. 50-1-16353-1-0013
ปริมาณและราคา
คาวตอง พลัส 1 ขวด ปริมาณ 90 แคปซูล ราคา 800 บาท
วิธีรับประทาน รับประทาน 2 แคปซูลก่อนอาหาร เช้า กลางวัน เย็น
สั่งซื้อและสมัครเป็นตัวแทนขาย
คุณ วีระชัย ทองสา โทร. 085-0250423 , 080-4248112
อีเมล์ weerachai.coffee@hotmail.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น